EM ý vừa trả lời phỏng vấn há há há
"เก้า สุภัสสรา" หนูไม่ใช่สาวฮอต = "Kao Supassra" : Tôi không phải là Hot Girl {:445:}
หากบอกไปตรงๆ ว่าตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ข้างๆ "เก้า สุภัสสรา ธนชาติ” เชื่อว่าหนุ่มๆ ค่อนประเทศต้องอิจฉาผมอย่างแน่นอน เพราะตอนนี้ต้องยอมรับว่า "เก้า" หรือ "สไปร์ท" จากซีรี่ย์เรื่อง "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" เป็นสาวที่ฮอตที่สุดในประเทศเลยก็ว่าได้ ด้วยบทบาทสไปร์ทซึ่งเป็นสาวสมัยใหม่ที่คิดว่าเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ผู้หญิงเสียเปรียบที่ทำให้เธอแจ้งเกิดในชั่วข้ามคืนนี้ทำให้เกิดวลี "ถ้าอยากกินสไปร์ท ต้องใส่ถุง" ขึ้นมาเลยทีเดียว
เก้าบอกกับผมว่าเพราะบทสไปร์ทนี่แหล่ะที่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมืออยู่ ณ ขณะนี้ "ตั้งแต่มีซีรี่ย์ออกมาคนก็รู้จักกันเยอะมากขึ้น เพราะว่าตอนแรกที่ถ่ายทำกันอยู่ คนอื่นจะรู้จัก "ต่อ(ธนภพ ลีรัตนขจร)" เป็นส่วนใหญ่ เพราะว่าหนูเป็นคนไม่ค่อยถ่ายรูป เวลาเขาถ่ายรูปกันเราก็ไม่ค่อยจะถ่ายรูปลงน่ะ มีแต่คนชอบถ่ายรูปต่อไปลง อย่างพี่ย้ง( ทรงยศ สุขมากอนันต์) จะชอบถ่ายรูปต่อไปลง แล้วก็ทำให้สาวๆ กรี๊ดนางมากเลย"
"หนูไม่ค่อยชอบไปร่วมเฟรมกับเขาไง หนูจะเป็นคนที่อยู่ในกองก็เฮฮานะแต่ไม่มั่นใจในตัวเอง รู้สึกว่าเป็นคนที่ถ่ายรูปไม่ขึ้น จริงๆ นะ อันนี้รู้ตัวเอง ไม่ชอบถ่ายรูป ถ่ายรูปไม่ขึ้น ถ่ายแล้วเดี๋ยวดับ คนอื่นเขาน่ารัก หน้าตาดี คนอื่นสวย น่ารักมากเลย เขาใสกันมากเลย แล้วหนูตัวอะไร หนูก็เลยไม่กล้าถ่าย กลัวหน้าแก่น่ะพี่(หัวเราะ) หน้าหนูยิ่งแก่ๆ อยู่ ก็เลยไม่ชอบถ่าย จนมาถึง EP 0 ที่คนเริ่มรู้จักว่าบทนี้น่าสนใจ บทนี้ต้องแรง ชั้นต้องเกลียดมันแน่ๆ เลย(หัวเราะ)”
เพราะว่าเกิดจากบท "สไปร์ท" ทำให้ใครหลายคนเรียกเธอว่าสไปร์ทไปเสียแล้ว ซึ่งน้อยคนนักที่จะรู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของเก้าต่างจากสไปร์ทราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว
"เก้าเป็นผู้หญิงคนนึงที่ไม่เคยมีใครจีบ(หัวเราะ) จริงๆ นะ เพราะว่าด้วยความที่เราเป็นคนนิสัยห้าวๆ มีนิสัยชอบปิดกั้นตัวเองจากทุกสิ่งทุกอย่าง จริงๆ ก็มีคนจีบแหล่ะ แต่ไม่ชอบลักษณะการจีบแบบนี้ไง อย่างแอดไลน์มามั่วๆ แล้วเราก็ไม่ชอบไง ด้วยความที่ไม่ชอบเราก็จะปฏิเสธ อ๋อ ไม่รู้จักน่ะค่ะ ขอบล็อคแล้วกันนะคะ อย่างนี้เลยนะ เพราะเราเป็นคนตรงๆ ไง ถ้าเราไม่ชอบก็บอกว่าไม่ชอบ ก็อาจทำให้ผู้ชายไม่อยากยุ่งกับอีนี่หรือเปล่า(หัวเราะ)”
เก้ายิ้มน้อยๆ ตลอดการสนทนา รอยยิ้มนั้นกับการเคลื่อนไหวอันเป็นธรรมชาติของเธอ(รวมกับเสียงห้าวเล็กๆ) ทำให้เรายิ่งอยากรู้มากขึ้นว่าแล้ววิธีการจีบแบบไหนที่จะเจาะเข้าไปสู่กลางหัวใจของเธอได้
“อ๋อ หนูคงไปจีบเขาก่อน ล้อเล่น ไม่รู้อ่ะ ถ้าเจอกันแล้ว โอ้ย น่ารัก มีเสน่ห์ ถ้าเขาชอบเรา เขาก็คงหาวิธีมาคุยด้วย อาจจะแอบตีเนียนเหมือนเป็นเพื่อนหรือว่าเป็นเพื่อนของเพื่อนมาคุยเล่นเฉยๆ ให้รู้สึกว่าเนียนๆ ไป เราก็แอบรู้แหล่ะ แล้วถ้าเราชอบเราก็คงคุยด้วย"
แต่เรื่องการจีบอาจจะต้องพักไว้ก่อน เพราะนาทีนี้ลำพังเวลาสำหรับทำเรื่องส่วนตัว อยู่กับครอบครัว หรือเพื่อนฝูงสำหรับเก้ายังถือว่าน้อยมากๆ สาวอายุ 18 คนนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปนั่งเรียนที่คณะเศรษฐศาสตร์ ภาคอินเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในช่วงครึ่งเช้าก่อนที่จะมาตลุยรับงานทั้งถ่ายแบบ ถ่ายรายการ พรีเซนเตอร์ ดีเจ ให้สัมภาษณ์ ฯลฯ ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงมืดค่ำ
"ตอนนี้ใครมาขอคิวก็ให้ไม่ได้แล้วจริงๆ เพราะไม่ว่าง ไหนจะแบ่งเรื่องเรียน เราไม่เอางานมาปนกับเรื่องเรียนไง แล้วมันมีอยู่สองวันในอาทิตย์ที่เรียนทั้งวัน เราก็บอกเขาเลยว่าไม่ได้จริงๆ มันเป็นคลาสเลคเชอร์ เราไม่ให้เขา"
“เพราะหนูไม่คิดจะดรอปเรียน หนูเข้ามาคณะนี้ ตั้งใจว่าจะจบไม่สามปีก็สามปีครึ่ง คณะนี้เป็นคณะที่สามบวกหนึ่ง หมายความว่าได้ปริญญาตรีสองใบ เป็นดับเบิ้ลดีกรี สามปีจบในประเทศ อีกปีไปต่อนอก เราจะได้ปริญญาตรีสองใบ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องความหวังว่าสามปีเราต้องจบภายในประเทศให้ได้แล้วไปต่อเมืองนอก ซึ่งจริงๆ มันก็ลำบากนะถ้าคิดแบบนี้ เพราะเราต้องเข้าคลาสบ่อยมากแล้วซัมเมอร์เราก็ต้องลงเรียนให้เต็ม ซึ่งงานเราก็ทำ ก็หวังไว้ว่าอาจจะสามครึ่งก็ได้ คือสามครึ่งนี่ก็หรูแล้วนะ เพราะคิดว่าจะไปต่อโทเมืองนอกด้วยน่ะค่ะ"
หลังจากพูดถึงการเรียนด้วยสายตาที่มุ่งมั่น ผมก็เหลือบไปเห็นหนุ่มๆ นักเรียนกลุ่มหนึ่งรวบรวมความกล้าเข้ามาขอถ่ายรูปกับ "น้องสไปร์ท" ของผม หลังจากที่กลุ่มนักเรียนหัวเกรียนกลุ่มแรกเดินจากไป ก็มีกลุ่มนักศึกษาอีกประมาณ 3 - 4 คนมานั่งอยู่ห่างๆ ซึ่งไม่ต้องเดินเข้าไปถามผมก็พอจะเดาออกว่าพวกเขามารอถ่ายรูปกับเก้าเช่นเดียวกัน
“จริงๆ เราไม่เคยคิดว่าเราดังนะ" เก้าบอกกับผม หลังจากที่ผมป้อนคำถามไปว่าเธอคิดว่าตัวเองดังหรือยัง "แล้วด้วยความที่เราไม่คิดว่าเราดัง เราก็เลยทำตัวปกติ แต่พอทำตัวปกติก็เริ่มรู้สึกว่าลำบากแล้ว หนูก็คิดว่าเราก็คงเป็นตัวของตัวเองเหมือนเดิมนี่แหล่ะ แต่เราควรที่จะระมัดระวังตัวเองมากขึ้น รอบคอบในสิ่งที่ทำมากขึ้น แล้วต้องมากๆ ด้วยนะ ซึ่งหนูเป็นคนไม่ค่อยรอบคอบอยู่แล้วไง เป็นคนไม่ค่อยระวังตัวเวลานั่งอะไรแบบนี้ หนูเป็นคนนิสัยเหมือนผู้ชาย ห้าวๆ น่ะ นั่งเอาขาขึ้นมา โอ้ย (หัวเราะ) ไม่มีใครจีบก็เพราะอย่างนี้แหล่ะ เพื่อนผู้ชายไม่เคยจีบเลยนะจริงๆ"
เสียงน้ำหยดสุดท้ายถูกดูดผ่านช่องเล็กๆ ของหลอดที่คาอยู่ในปากเรียวบางของเก้าคล้ายสัญญาณบอกว่าการเดทครั้งนี้กำลังจะสิ้นสุด ผมลองตั้งคำถามที่ต้องใช้จินตนาการกับเธอดูว่าหากตัวละคร "สไปร์ท" ที่เธอแสดงมีตัวตนขึ้นมาจริงๆ "เก้า สุภัสสรา" คนนี้จะมีอะไรพูดกับสไปร์ทบ้าง
“ก็ขอบคุณแล้วกันที่ไม่รู้ว่าบทเลือกเรา หรือเราเลือกบท ไม่รู้ว่าใครเลือกใคร แต่ผลสุดท้ายเราได้ทำงานร่วมกัน แล้วสิ่งที่เรา work together มาด้วยกัน เราเหนื่อยมาด้วยกันกับบทนี้ หนูเชื่อว่าถ้าสไปร์ทตัวจริงเขารู้สึก หนูว่าเขาคงดีใจมากๆ กับสิ่งที่เขาได้รับและทุกคนชื่นชอบเขา ไม่รู้ทุกคนหรือเปล่าแต่น่าจะเป็นส่วนใหญ่ จากที่ได้ยินมามีแต่คนชอบสไปร์ท ด้วยความตรงไปตรงมาของสไปร์ทด้วย แต่ความตรงไปตรงมาของสไปร์ทเนี่ย มันมีวิธีป้องกันตัวเอง แต่เขาแค่มีความคิดที่เปิดกว้างทางเรื่องเพศแค่นั้นเอง จริงๆ เขาไม่ผิดหรอกนะที่เปิดกว้างทางเรื่องเพศน่ะ แต่เขาผิดที่ว่าถ้าเขาทำแบบนั้นน่ะ คนจะไม่เห็นค่าเขา เขาควรที่จะเก็บตัวเองให้มีคุณค่าในวันที่เขาอยากจะมีใครสักคนมาดูแลเขา ก็แค่นั้นเอง"
“เก้า สุภัสสรา" ยกมือไหว้แล้วเดินจากไป หนุ่มๆ นักศึกษากลุ่มนั้นกุลีกุจอลุกขึ้นมาพร้อมกับเดินเข้ามาคุยกับเธอ ก่อนจะลงท้ายด้วยการถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน ในขณะที่ผมยืนมองเก้าดูแลแฟนๆ ของเธออยู่ห่างๆ และวินาทีนั้นเองผมรู้สึกเหมือนกับว่าเห็นเงาของสไปร์ทที่เคยทาบทับเงาของเธอค่อยๆ จางหายไปอย่างช้า...ช้า
เรื่องโดย เวสารัช โทณผลิน
ถ่ายภาพโดย วิวัฒน์ สาทรสวัสดิ
http://www.thaisarn.com/th/news_ ... ;utm_medium=twitter
Chữ như giun bò, hông hiểu chi hết |